ร้านสปาเกตตี้ ชื่อดัง“Pattaya Spaghetti” @ตลาดเทพประสิทธิ์พัทยา

ร้านสปาเกตตี้ ชื่อดัง“Pattaya Spaghetti” @ตลาดเทพประสิทธิ์พัทยา

            ห่างหายกันไปนานเลยสำหรับเมนูอาหารยุโรป เอาจริง ๆ หากถามว่าตัวเราเป็นคนที่ชอบอาหารยุโรปหรือเปล่าก็ต้องตอบว่า “ชอบนะ แต่ไม่ได้ถึงขนาดคลั่งไคล้” และด้วยภาพลักษณ์ของอาหารยุโรปที่เราเคยเจอมาในหลายที่นั้นมักจะมาในปริมาณที่ให้น้อยมาก คือแค่รับประทานไป 3 – 4 คำก็หมดแล้ว ลงท้ายด้วยการที่เราต้องรับประทานอาหารไทยต่อแบบงง ๆ จนเราไม่ค่อยกล้าที่จะสั่งอาหารยุโรปมารับประทานเท่าไหร่ เป็นแบบนี้มานานแล้วจนกระทั่งตัวเองได้มีโอกาสเดินทางมาที่พัทยา จังหวัดชลบุรี พี่เราที่เคยทำงานอยู่ที่นี่ก็ไม่รีรอที่จะชักชวนให้มาหาซื้ออาหารเย็นกันที่ตลาดเทพประสิทธิ์พัทยา เพราะตลาดแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของตัวเลือกอาหารเด็ด ๆ ที่มีหลากหลายเมนู ทั้งอาหารไทยและอาหารต่างประเทศ โดยเฉพาะ “ร้าน Pattaya Spaghetti” ที่สายอาหารยุโรปและสายคนชอบรับประทานสปาเกตตี้ไม่ควรพลาด มาแล้วต้องติดใจในรสชาติโดดเด่นที่ไม่ค่อยได้เห็นตาม ร้านสปาเกตตี้ ในสตรีทฟู้ดส์หรือตลาดใด ๆ นัก แถมที่มากไปกว่านั้นคือปริมาณสปาเกตตี้ก็เยอะจนอิ่มแน่นอน เอาล่ะ! ถึงเวลาแล้วสินะที่เราจะเปิดโอกาสรับความชื่นชอบในเมนูอาหารยุโรปแบบเต็มตัวในรอบหลายปี อยากรู้ว่าจะปังหรือไม่สำหรับ “ร้าน Pattaya Spaghetti” ต้องมาดูกันเลย

คาเฟ่ฮิปคลาสสิก แดน 101 “Na-Hong Café”

คาเฟ่ฮิปคลาสสิก แดน 101 “Na-Hong Café”

            เจอคาเฟ่กลางนามาก็เยอะแล้ว ในวันนี้เราก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาคาเฟ่ริมนากันบ้างดีกว่า แต่ว่านะทุกคน…ถ้าเราจะไปคาเฟ่แถวปทุมธานี นนทบุรี หรือนครปฐมก็คงดูน่าเบื่อและซ้ำซากไปหน่อย เพราะหลายคนก็แนะนำคาเฟ่แถวนั้นไปเยอะแล้ว งั้นวันนี้เรามากันไกลหน่อยดีกว่า หากพูดถึงอีกจังหวัดหนึ่งที่มีทุ่งนาอุดมสมบูรณ์สวยงามมากที่สุดของประเทศก็ต้องเป็นจังหวัดร้อยเอ็ดเลย แม้ว่าร้อยเอ็ดจะไม่ใช่จังหวัดที่มีคาเฟ่เยอะและกำลังเจริญเทียบเท่าจังหวัดใหญ่อื่นในภาคอีสานอยู่ แต่ก็มีหลายคนที่ให้ความสนใจใน “Na-Hong Café” คาเฟ่ฮิปคลาสสิก เปิดใหม่ริมทุ่งนากันมาก เพราะเหตุใดในยุคที่ไทยเราเต็มไปด้วยคาเฟ่ทุ่งนาเยอะแยะ จู่ ๆ Na-Hong Café ก็กลายมาเป็นคาเฟ่อีกแห่งหนึ่งที่มีแต่คนพูดกันว่าหากมาร้อนเอ็ดก็ต้องมาคาเฟ่นี้ให้ได้ มีอะไรที่ทำให้คาเฟ่นี้เด็ดกว่าคาเฟ่อื่น เรามาดูกันดีกว่า

คาเฟ่กรีนโทน ยุค 80’s “Peak-a-Boo”

คาเฟ่กรีนโทน ยุค 80’s “Peak-a-Boo”

            ย้อนกลับไปในอดีตช่วงที่วัฒนธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามาในเมืองไทยก็ได้เกิดศิลปะแบบประยุกต์และข้าวของเครื่องเรือนที่มีการปรับให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างก็ยังคงความงดงามของไทยไว้ได้เช่นเดิมซึ่งสีดั้งเดิมที่ทำให้สิ่งของ เฟอร์นิเจอร์มีความงดงามที่สุดอีกสีก็คือ “สีเขียว” เพราะเป็นสีตัวแทนของอัญมณีมรกตที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกถึงความหรูหราอลังการของสิ่งนั้น ๆ จึงไม่แปลกที่พวกโคมไฟ ภาชนะ หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ในยุคอดีตจึงเน้นไปทางสีเขียวมรกตกันเป็นส่วนใหญ่ แต่พอมาสมัยนี้พวกเครื่องเรือนสีเขียวต่างก็ล้าสมัยไปหมดทั้งที่เรายังสามารถนำมาตกแต่งให้บ้านของเรามีความงดงามตามแบบยุคคลาสสิกได้และบางทีการที่นำสีเขียวมาใช้กับสิ่งของที่ตกแต่งสถานที่ในปัจจุบันนี้ได้ก็อาจจะทำให้เกิดความลงตัวในรูปแบบโมเดิร์นกึ่งวินเทจจนเหมือนอนุรักษ์ความเป็นไทยประยุกต์ในรัชกาลที่ 5 อย่างลงตัวก็ได้ แต่เมื่อยังไม่มีใครลงมือทำ คาเฟ่ “Peak-a-Boo” ก็ขอเป็นเจ้าแรกที่ลงมือสร้างสรรค์สไตล์ คาเฟ่กรีนโทน ที่มีความผสมผสานสองยุคสมัยได้อย่างงดงามราวกับหลุดไปสู่ยุค 80’s ที่ยังคงเห็นบรรยากาศแนวการตกแต่งร้านแบบนี้อยู่

Green Bamboo เย็นใจในสวนคาเฟ่แนวร่มไม้

Green Bamboo เย็นใจในสวนคาเฟ่แนวร่มไม้

            ไหนใครที่เป็นสายชอบบรรยากาศในสวนร่มไผ่แบบญี่ปุ่นหรือเมืองจีนบ้างยกมือขึ้น! แน่นอนว่ามีหลายคนที่ชื่นชอบการได้ไปกินลมชมบรรยากาศอันเงียบสงบท่ามกลางเสียงลมที่ปะทะกับใบไผ่จนทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวเร้าอารมณ์ให้เพลิดเพลิน แต่ไม่ค่อยจะมีคาเฟ่ไหนที่ตกแต่งแนวร่มไม้ Green Bamboo นี้เท่าไหร่ ถึงมีส่วนใหญ่ก็จะเป็นต้นไผ่จำลอง แต่สำหรับคาเฟ่ “เย็นใจในสวน”แล้ว ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับต้นไผ่ของจริงดั้งเดิมคู่พื้นที่แท้และกลิ่นของต้นไผ่ที่พัดตามลมก็สัมผัสได้จริง หากคุณไม่ซีเรียสที่จะต้องการบรรยากาศแนววัฒนธรรมญี่ปุ่นหรือจีนด้วย แค่ต้องการอยู่ท่ามกลางป่าไผ่ก็พอแล้วล่ะก็คาเฟ่นี้อาจจะเป็นคำตอบที่รอให้คุณไปตามหาก็ได้ เชื่อว่าหากใครได้มาที่เย็นใจในสวนก็ย่อมจะรู้สึกเย็นใจสมชื่ออย่างแน่นอน ยิ่งได้มาคนเดียวล่ะก็คงไม่ต้องบอกว่าจะได้อารมณ์สุนทรีย์ขนาดไหน เอาเพลงมาเปิดฟังด้วยยิ่งได้ความรีแลกซ์ใหญ่เลย เอาเป็นว่าวันนี้เรามารู้จักคาเฟ่ “เย็นใจในสวน”กันเถอะ

เฮือนลับแล ความงามที่ซ่อนแอบภายใต้อำเภอลึกลับของอุตรดิตถ์

เฮือนลับแล ความงามที่ซ่อนแอบภายใต้อำเภอลึกลับของอุตรดิตถ์

            มาจังหวัดอุตรดิตถ์ระวังหลง(รัก) “ลับแล” อำเภอนี้หลายคนอาจจะรู้จักชื่อเสียงดีอยู่แล้ว แต่บางคนก็ไม่รู้จัก แต่หากได้มาเยือนอุตรดิตถ์แล้วล่ะก็เราแนะนำว่าอำเภอลับแล เป็นอีกหนึ่งอำเภอที่คุณไม่ควรพลาดเลย เพราะที่นี่มีความงดงามของหุบเขาและสายหมอกท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้ที่สวยงาม อีกทั้งผู้คนในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ก็ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนเก่าแก่แบบภาคเหนือดั้งเดิมในชุมชนเอาไว้ให้ทรงคุณค่าแก่ลูกหลานอยู่ นอกจากนี้ผลไม้อย่างทุเรียนและอาหารพื้นเมืองเหนือก็ยังได้รับการขึ้นชื่อว่า “หากใครมาแล้วไม่ได้ลองถือว่ามาไม่ถึงลับแล”เชียวล่ะ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่อำเภอลับแลยังมีคาเฟ่ร้านอาหารขึ้นชื่อประจำอำเภออย่าง “เฮือนลับแล” รอต้อนรับคุณพร้อมกับอาหารอร่อยที่เราบอกไปด้วย คาเฟ่นี้จะเด็ดแค่ไหนมาดูกันเลยดีกว่า

อวกาศ คาเฟ่ สายชิคจินตนาการนอกโลกไม่ควรพลาด

อวกาศ คาเฟ่ สายชิคจินตนาการนอกโลกไม่ควรพลาด

            หากคุณเป็นคนที่มักจะมีโมเม้นต์อยากออกไปท่องอวกาศเป็นนักบินที่ได้ล่องลอยโบยบินท่ามกลางหมู่ดาวเล็กดาวน้อยและดาวดวงใหญ่อลังการที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีคำว่าสิ้นสุดแล้วล่ะก็แสดงว่าคุณต้องเป็นคนที่ชอบดาราศาสตร์ในระดับหนึ่งเลย โดยเฉพาะการอยู่ใกล้กับดวงดาวยิ่งเป็นสิ่งที่โปรดปรานมาก แต่อย่างที่รู้ว่าท้องฟ้าจำลองไม่ได้เปิดให้เข้าไปนั่งชิลล์ ๆ ได้ตลอดเวลาที่อยากเข้า และใจกลางกรุงก็เต็มไปด้วยแสงสีจากตึกรามบ้านช่องซึ่งทำให้เราเห็นดาวไม่ชัดเจนเหมือนเวลาที่อยู่ตามจังหวัดเล็ก ๆ หรือบนยอดเขาบนดอย แบบนี้ทำอย่างไรหากเราอยากเห็นดวงดาวสวย ๆ อยู่รอบตัวบ้างแม้จะไม่ใช่ดวงดาวในอวกาศจริง ๆ ก็ตาม ไม่ยากเลย! หากอยากเห็นดวงดาวเยอะ ๆ และได้นั่งชิลล์ ๆ ชมความงดงามของท้องฟ้ายามราตรีไปนาน ๆ โดยไม่กลัวง่วงหรือหลับไปก่อนล่ะก็คุณสามารถมาเช็กอินกันที่ “อวกาศ คาเฟ่”ได้แม้แต่ตอนกลางวันที่นี่ก็เปิดนะเออ ใครยังไม่เคยไป วันนี้เราจะมาแนะนำกันว่ามันเป็นคาเฟ่ที่เลิศแค่ไหนถึงทำให้ผู้คนสายดาราศาสตร์ต้องรีบขับรถเดินทางไปโดยด่วนเลย

แนะนำคาเฟ่ แมททีเรียลกึ่งทะเลทราย “TANGIBLE BANGKOK”

แนะนำคาเฟ่ แมททีเรียลกึ่งทะเลทราย “TANGIBLE BANGKOK”

คุณเคยมีโมเม้นต์ความฝันที่อยากจะออกไปคว้าดาวในอวกาศหรือเดินในดินแดนต่างดาวอย่างในภาพยนตร์ ไซไฟที่เคยดูกันมาหรือไม่ แน่นอนว่าในชีวิตจริงยังคงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่จะพาทุกคนออกไปเที่ยวชมอวกาศนั้นยังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าการได้ไปสำรวจนอกโลกจะเข้าถึงทุกคนได้ แต่ในเวลานี้หากคุณไม่สามารถอดทนที่จะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้นได้ไหวอีกต่อไป ในวันนี้เราก็จะมา แนะนำคาเฟ่ “TANGIBLE BANGKOK” คาเฟ่แมททีเรียลกึ่งทะเลทราย ที่คุณจะรู้สึกเหมือนได้ออกไปนอกโลกจริง ๆ TANGIBLE BANGKOK จะทำให้เราต้องร้อง “ว้าว!”ออกมาได้ดังแค่ไหนต้องมาอ่านกัน

ทรัพย์พลอยวิว “Café Restaurant” จิบกาแฟชมทะเลหมอกที่ระยอง

ทรัพย์พลอยวิว “Café Restaurant” จิบกาแฟชมทะเลหมอกที่ระยอง

            ไปเที่ยวจังหวัดระยอง ใครว่าจะเจอแต่ทะเล หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าหากมาระยองนอกจากเราจะมีจุดหมายมาเพื่อเล่นน้ำทะเลผ่อนคลายให้ชุ่มฉ่ำแล้ว หลายคนยังมาเพื่อเที่ยวชมสวนผลไม้ที่อยู่ในต่างอำเภอซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีสภาพเป็นเนินเขาและหุบเขามากมายทำให้มีบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ถ้าร้อนก็ไม่ร้อนมาก นอกจากนี้สภาพแวดล้อมก็ยังสวยเหมือนอยู่ในภาคตะวันตกหรือภาคเหนือก็ไม่ปาน ยิ่งมาจากกรุงเทพมหานครแล้วยิ่งไม่ไกลเลยเมื่อเทียบกับเชียงใหม่หรือใครที่เบื่อกาญจนบุรีก็มาหาทะเลหมอกกันที่หุบเขาเมืองระยองฮิได้ มาแล้วก็อย่าลืมแวะคาเฟ่ “ทรัพย์พลอยวิว Café & Restaurant” ด้วยนะทุกคน เพราะคาเฟ่นี้วิวดีเหมาะกับสไตล์คนชอบทุ่งนาและภูเขาสวย ๆ สุดอลังการมากเลย

ชมวิวแม่น้ำแคว แลเทือกเขาสุดอลัง “ดินคาเฟ่”

ชมวิวแม่น้ำแคว แลเทือกเขาสุดอลัง “ดินคาเฟ่”

            มาถึงจังหวัดกาญจนบุรีทั้งทีก็อยากจะหาคาเฟ่ที่บรรยากาศเข้ากันกับความเป็นเมืองในหุบเขาที่มีประวัติศาสตร์และพื้นเพวิถีชีวิตคลาสสิกมาอย่างยาวนานบ้าง แต่คาเฟ่แนวนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในตัวเมืองที่ไม่ได้ติดกับแม่น้ำแคว หรือถึงมีก็เป็นบรรยากาศโบราณไปเลย ซึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเราก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้น่าตราตรึงใจและแสดงออกถึงเรื่องราวความเป็นเมืองกาญจน์ที่เต็มเปี่ยมให้เราได้เห็นกันมากนัก หากได้คาเฟ่ที่มีกลิ่นอายสไตล์ใหม่ ๆ แบบประยุกต์ให้เข้ากับความเป็นเมืองกาญจน์ได้ก็จะดีมาก แบบนี้เราก็คงต้องออกจากนอกเมืองมาเล็กน้อยเพื่อตามหาคาเฟ่เด็ด ชมวิวแม่น้ำแคว ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงใหม่ล่าสุดในโลกโซเชียลอย่าง “ดินคาเฟ่”กันเสียแล้ว คาเฟ่นี้จะมีอะไรให้น่าประทับใจและได้กลิ่นอายความเป็นเมืองกาญจนบุรีดั้งเดิมที่ผสมผสานกับยุคใหม่ได้ลงตัวรูปแบบใดต้องมารู้จักกันแล้ว เพราะเวลานี้ดินคาเฟ่ก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ว่ากันว่าหากมาเมืองกาญจน์แล้วไม่ได้มาเยือนดินคาเฟ่ก็ถือว่าไม่ถึงที่เชียวนะเออ

แนะนำคาเฟ่ แนวภูตสุดโมเดิร์นฟีลรีแล็กซ์ “Filsandfile”

แนะนำคาเฟ่ แนวภูตสุดโมเดิร์นฟีลรีแล็กซ์ “Filsandfile”

            เมื่อเราอยากเปลี่ยนบรรยากาศสุดแสนธรรมดาเรา แนะนำคาเฟ่ ไปนั่งรับประทานของอร่อย ๆ อยู่ในคาเฟ่แนวโมเดิร์นกึ่งร้างแบบหลอน ๆ เล็กน้อยแน่นอนว่าเมื่อใจคิดจะไปแล้วก็ต้องไปให้ได้ แต่ใกล้ตัวเราจะมีคาเฟ่แนวนั้นบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะสายคาเฟ่อย่างเรา ๆ ก็เคยพบเห็นแต่คาเฟ่แนวผี ๆ ที่มีบรรยากาศมืดชวนให้สยองขวัญซึ่งแม้จะชอบความเป็นส่วนตัวกับบรรยากาศแปลกใหม่ที่ดูดิบออกหลอนก็ไม่ได้หมายความว่าจะหนักถึงขั้นอยู่กับพวกคาเฟ่บรรยากาศผีหลอกขนาดนั้น อ้าวแบบนี้ยิ่งหายากใหญ่แล้วล่ะ…หรือเปล่านะ