ย้อนกลับไปในอดีตช่วงที่วัฒนธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามาในเมืองไทยก็ได้เกิดศิลปะแบบประยุกต์และข้าวของเครื่องเรือนที่มีการปรับให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ทุกอย่างก็ยังคงความงดงามของไทยไว้ได้เช่นเดิมซึ่งสีดั้งเดิมที่ทำให้สิ่งของ เฟอร์นิเจอร์มีความงดงามที่สุดอีกสีก็คือ “สีเขียว” เพราะเป็นสีตัวแทนของอัญมณีมรกตที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกถึงความหรูหราอลังการของสิ่งนั้น ๆ จึงไม่แปลกที่พวกโคมไฟ ภาชนะ หรือเครื่องประดับต่าง ๆ ในยุคอดีตจึงเน้นไปทางสีเขียวมรกตกันเป็นส่วนใหญ่ แต่พอมาสมัยนี้พวกเครื่องเรือนสีเขียวต่างก็ล้าสมัยไปหมดทั้งที่เรายังสามารถนำมาตกแต่งให้บ้านของเรามีความงดงามตามแบบยุคคลาสสิกได้และบางทีการที่นำสีเขียวมาใช้กับสิ่งของที่ตกแต่งสถานที่ในปัจจุบันนี้ได้ก็อาจจะทำให้เกิดความลงตัวในรูปแบบโมเดิร์นกึ่งวินเทจจนเหมือนอนุรักษ์ความเป็นไทยประยุกต์ในรัชกาลที่ 5 อย่างลงตัวก็ได้ แต่เมื่อยังไม่มีใครลงมือทำ คาเฟ่ “Peak-a-Boo” ก็ขอเป็นเจ้าแรกที่ลงมือสร้างสรรค์สไตล์ คาเฟ่กรีนโทน ที่มีความผสมผสานสองยุคสมัยได้อย่างงดงามราวกับหลุดไปสู่ยุค 80’s ที่ยังคงเห็นบรรยากาศแนวการตกแต่งร้านแบบนี้อยู่
“Peak-a-Boo” คาเฟ่กรีนโทน ยุค 80’s

ทำความรู้จักกับคาเฟ่ “Peak-a-Boo”
คาเฟ่ “Peak-a-Boo” เป็นคาเฟ่กลิ่นอายยุค 80’s ย่านอนุสาวรีย์ที่ตัวร้านมีความโดดเด่นของสีขาวที่ตัดกับสีเขียวและการจัดร้านที่ทำให้มีความวินเทจราวกับย้อนไปสู่เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนทำให้ผู้คนเกิดความสนใจที่จะเข้ามาใช้บริการคาเฟ่นี้กันไม่ขาดสาย ให้ความลึกลับและมอบความเฮฮาปาร์ตี้ในโหมดของบาร์ยามค่ำคืนที่หาได้ยากมากในยุคนี้ที่มีแต่ความโมเดิร์น แต่คาเฟ่นี้จะได้อยู่กับความเรียบง่ายทำให้คุณได้ฟีลเหมือนมาเดทกันตอนเป็นวัยรุ่นแบบจัดเต็มสุด ๆ
ที่มาของชื่อร้าน “Peak-a-Boo” ก็อาจมาจากคำร่ำลือของการเดินทางมาที่ระหว่างทางเข้าจะรู้สึกลึกลับซับซ้อนไปสักหน่อยแม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ อารมณ์ประมาณว่าแถวนี้ไม่น่าจะมีร้านแบบนี้อยู่เลย แต่พอถึงจุดหมายแล้วก็จะรู้สึก Peak a boo! ทันที ว้าวสุด ๆ เลยคุณ
บรรยากาศของคาเฟ่ “Peak-a-Boo”
คาเฟ่ “Peak-a-Boo” ถูกออกแบบให้เป็นร้านสไตล์ลอฟต์ก่อปูนเปลือยบนชั้น 5 ของอาคาร Victory Mall ที่มีการตกแต่งผนังมุมเด่นโดยรอบเป็นสีเขียวสลับกับปูนเปลือยสีเทา เข้าคู่กับพวกเคาน์เตอร์บาร์สีเขียว เก้าอี้บุ และโต๊ะที่นั่งสีดำแบบวินเทจ มีความปลอดโปร่งจากหน้าต่างบานกว้างลอดเข้ามาทำให้แลดูเป็นร้านยุค 80’s ที่เงียบสงบ ได้อารมณ์แอบติสท์ มีการตกแต่งด้วยของเก่าแนว Outdooer อย่างจักรยานและรูปภาพ

ส่วนอีกโซนของตัวคาเฟ่ “Peak-a-Boo” ก็เป็นจุดที่ลูกค้าหลายคนชื่นชอบกันมาก เพราะมีมุมระเบียงให้ลูกค้าสามารถนั่งชมรถไฟฟ้าที่เคลื่อนตัวผ่านได้อย่างชัดเจนและเห็นวิวตึกสูงระฟ้าของกรุงเทพมหานครในย่านใกล้เคียงได้แบบ Open – Air เลย หากเป็นในช่วงกลางคืนที่ร้านนี้ก็จะมีวงดนตรีมาเล่นด้วย ได้บรรยากาศบาร์ชิลล์ ๆ ยามค่ำคืนแบบยุค 80’s ในโทนสีเขียววินเทจไปอีก
เมนูเด็ดของคาเฟ่ “Peak-a-Boo”
คาเฟ่ “Peak-a-Boo” มีเมนูเด็ดที่ต้องได้ลองสักครั้ง ได้แก่ Chuen Jai เป็นกาแฟส้มที่ทางร้านใช้เอซเปรสโซ่ช็อตผสมเข้ากับน้ำส้มสดและไซรัปโรสแมรี่, Sunset Boulevard, Mint Affogato และเด็ดสุดคือ Peak a boo ที่เป็นสูตรนมสดอุ่น ๆ ที่นำมาผสมกับไซรัปมินต์หอม ๆ ฟินเบอร์แรงมาก

Peak-a-Boo
ที่ตั้ง : 6 Victory Mall, 2 ถนนราชวิถี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
Google Map : https://g.page/peakaboobar?share
เวลาเปิดให้บริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. – 24.00 น.
หมายเลขโทรศัพท์ : 063 697 8792
#คาเฟ่กรีนโทน #โมเดิร์นกึ่งวินเทจ #คาเฟ่กลิ่นอายยุค80